สารอาหารต้านความเครียด
กรดโฟลิก (โฟเลต,โฟลาซิน) หรือ วิตามินบี9
กรดโฟลิก (โฟเลต,โฟลาซิน) หรือ วิตามินบี9 หรือรู้จักกันในชื่อ วิตามินเอ็ม หรือ วิตามินบีซี (Bc) จัดอยู่ในกลุ่มของ วิตามินบีรวม มีหน่วยวัดเป็นไมโครกรัม (มคก. หรือ mcg.) มีส่วนช่วยในกระบวนการเผาผลาญ โปรตีน มีความสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยในการสร้าง กรดนิวคลีอิก และมีความจำเป็นต่อการแบ่งตัวของเซลล์ นอกจากนี้ร่างกายต้องใช้ในกระบวนการใช้น้ำตาลและกรดอะมิโน โดยกรดโฟลิกนั้นถูกทำลายได้ง่ายด้วยอุณหภูมิห้องเป็นเวลานานเกินไปวิตามินบี 9 เป็นตัวหนึ่งที่ช่วยได้สำหรับคนเป็นสิวซึ่งจะช่วยให้ระบบประสาทดีขึ้น ลดความวิตกกังวล ความเครียดที่อ่านนำไปสู่การเป็นสิว ผมก็ได้มีให้ข้อมูลไว้นะครับว่าอาหารอะไรที่มีวิตามินบี 9 หรือ Folic acid อยู่มากเผื่อจะได้ไม่ต้องไปหาอาหารเสริมทานกรดโฟลิค รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งคือ วิตามิน บี9 และ Folacin หรือ Folate ชื่อทางเคมีคือ pteroylglutamic acid วิตามินชนิดนี้ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เอง และถูกเก็บไว้ที่ตับ
วิตามิน บี9 – กรดโฟลิค มีประโยชน์สำหรับการสังเคราะห์ DNA และการเจริญเติบโตของเซลล์ และยังจำเป็นในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง, การสร้างพลังงาน กรดโฟลิคนั้นเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้าง Heme ซึ่งเป็นธาตุเหล็กที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในฮีโมโกบิน เพื่อการลำเลียงออกซิเจนในร่างกาย และจำเป็นต่อเซลล์ส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อโคเอ็นไซม์ในการสังเคราะห์ RNA และ DNA อีกทั้งยังจำเป็นต่อการเผาผลาญโปรตีน และการรักษาโรคโลหิตจาง วิตามินบี 9 ยังช่วยในเรื่องการย่อยอาหาร และระบบประสาท ช่วยในเรื่องจิตใจและอารมณ์ เพราะสารอาหารนี้ช่วยในเรื่องระบบประสาท จึงมีผลให้ผ่อนคลายด้านอารมณ์ ความวิตกกังวลและความเครียดที่เป็นอยู่ได้
แหล่งที่พบกรดโฟลิกตามธรรมชาติ ในอาหาร ได้แก่ ไข่แดง ตับ ผักใบเขียวเข้ม แครอท แคนตาลูป ฟักทอง เอพริคอต อะโวคาโด อาร์ติโช้ก ถั่ว แป้งไรย์แบบสีเข้มที่ไม่ผ่านการขัดสี ทอร์ทูลายีสต์ ผักสดสีเขียว เช่น ผักขม และบร๊อคโคลี่ และยังพบในผลไม้, ถั่วต่าง ๆ , เมล็ดข้าวธัญพืช เมล็ดทานตะวัน
เป็นต้น
ประโยชน์ของกรดโฟลิก
การขาดวิตามินบี9 ในเด็กทารกที่ยังไม่คลอดนั้น อาจเพิ่มความเสียงต่อทารกที่จะเกิด ทำให้มีการเจริญเติบโตอย่างผิดปกติที่เกิดขึ้นกับกระดูกสันหลัง และระบบประสาทผิดปกติรุนแรง
เมื่อขาดกรดโฟลิค จะมีอาการเหนื่อยเพลีย, เป็นสิว, ฝาดลิ้น, เป็นแผลที่มุมปาก (เช่นเดียวกับการขาดวิตามินบี2, วิตามินบี6 และธาตุเหล็ก) ผลของการขาดกรดโฟลิคในระยะยาวคือ อาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง และภาวะกระดูกพรุนได้ในภายหลัง เช่นเดียวกับโอกาสในการเป็นมะเร็งลำไส้และมะเร็งปากมดลูก
การขาดกรดโฟลิคอาจพบทั่วไปในผู้สูบบุหรี่ พบว่ามีระดับกรดโฟลิคต่ำในปอดของผู้สูบบุหรี่
คำแนะนำในการรับประทานกรดโฟลิก
ขนาดรับประทาน
วิตามินบี 9 – กรดโฟลิค ความเป็นพิษและอาการในกรณีที่ใช้ปริมาณสูง
เมื่อจำเป็นต้องใช้ปริมาณมากขึ้น
จะได้ผลดีเมื่อใช้ร่วมกับ
อันตรายของวิตามินบี9 – กรดโฟลิค
เป็นต้น
ประโยชน์ของกรดโฟลิก
- วิตามินบี 9 ช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ตามปกติ
- ช่วยให้กล้ามเนื้อในกระเพาะอาหารและ ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยในการย่อยและแตกตัวของโปรตีน
- ไขมัน ช่วยสร้าง เม็ดเลือดแดง เสริมความจำ
- วิตามินบี 9 หรือที่เรียกว่าโฟเลตนี้ สำคัญกับคุณแม่ตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตรและเด็กมาก
- ช่วยป้องกันโรคโลหิตจางในหญิงตั้งครรภ์ และป้องกันความพิการของทารกในครรภ์
- ช่วยในการย่อยหรือแตกตัวของคาร์โบไฮเดรตให้กลายเป็นกลูโคส
- ช่วยในการย่อยหรือแตกตัวของโปรตีนและไขมัน
- ช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ตามปกติ
- ช่วยให้กล้ามเนื้อในกระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
- ช่วยบำรุงผิวหนัง เส้นผม ตา ปาก และตับ
การขาดวิตามินบี9
การขาดวิตามินบี9 ในเด็กทารกที่ยังไม่คลอดนั้น อาจเพิ่มความเสียงต่อทารกที่จะเกิด ทำให้มีการเจริญเติบโตอย่างผิดปกติที่เกิดขึ้นกับกระดูกสันหลัง และระบบประสาทผิดปกติรุนแรง
เมื่อขาดกรดโฟลิค จะมีอาการเหนื่อยเพลีย, เป็นสิว, ฝาดลิ้น, เป็นแผลที่มุมปาก (เช่นเดียวกับการขาดวิตามินบี2, วิตามินบี6 และธาตุเหล็ก) ผลของการขาดกรดโฟลิคในระยะยาวคือ อาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง และภาวะกระดูกพรุนได้ในภายหลัง เช่นเดียวกับโอกาสในการเป็นมะเร็งลำไส้และมะเร็งปากมดลูก
การขาดกรดโฟลิคอาจพบทั่วไปในผู้สูบบุหรี่ พบว่ามีระดับกรดโฟลิคต่ำในปอดของผู้สูบบุหรี่
- อาการเมื่อขาดวิตามินบี 9 คือ ท้องเสีย, เสียดท้องหรือท้องผูก
- ขนาดที่แนะนำให้รับประทานคือประมาณ 180 – 200 ไมโครกรัม ต่อวัน และสำหรับหญิงตั้งครรภ์ควรเพิ่มขนาดเป็น 2 เท่า ส่วนหญิงให้นมบุตรควรรับประทาน 280 ไมโครกรัม ในช่วง 6 เดือนแรก และ 260 ไมโครกรัม ในช่วง 6 เดือนหลัง
- กรดโฟลิก ในรูปแบบอาหารเสริม มีวางจำหน่ายตั้งแต่ปริมาณ 400 – 800 ไมโครกรัม ส่วน 1,000 มิลลิกรัม ต้องซื้อโดยใช้ใบสั่งของแพทย์เท่านั้น
- โดยทั่วไปกรดโฟลิกจะมีผสมอยู่ในรูปแบบของ วิตามินบีรวม ประมาณ 100 ไมโครกรัม ไปจนถึง 400 ไมโครกรัม
- คุณควรเลือกซื้ออาหารเสริมที่มีทั้งโฟเลตและวิตามินบี12 อยู่ด้วยกัน
- โดยขนาดที่แนะนำให้รับประทานต่อวันคือ 400 – 5,000 ไมโครกรัม ต่อวัน
- ผู้หญิงควรรับประทานกรดโฟลิกและ วิตามินบี6 ให้เพียงพอ กรดโฟลิกเพียง 400 ไมโครกรัม วิตามินบี6 เพียง 2-10 มิลลิกรัม ก็สามารถลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายเฉียบพลันได้ถึงร้อยละ 42
- ผู้ที่รับประทานกรดโฟลิก 1,000 – 5,000 ไมโครกรัม ทุกๆวัน จะช่วยแก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้
- สำหรับผู้ที่ชอบดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ควรได้รับกรดโฟลิกเสริม
- สำหรับผู้ที่รับประทานวิตามินซีมากกว่า 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน ควรรับประทานกรดโฟลิกเสริมด้วย
- สำหรับผู้ที่รับประทานยากันชักไดแลนติน ฮอร์โมนเอสโทรเจน ซัลโฟนาไมด์ แอสไพริน ฟีโนบาร์บิทอล ควรได้รับกรดโฟลิกเสริม
- สำหรับผู้ที่ป่วยหรือร่างกายกำลังต่อสู้กับโรคใดๆอยู่ อาหารเสริมที่รับประทานควรจะมีกรดโฟลิกอยู่ด้วย เพราะจะช่วยเสริมแอนติบบอดีในร่างกาย
- การรับประทานกรดโฟลิกในปริมาณมาก อาจมีผลกระทบต่อยาต้านมะเร็งบางชนิด
- การรับประทานกรดโฟลิกในปริมาณมากอาจทำให้คนไข้โรคลมชักที่รับประทานยาฟีโนโทอินอยู่เกิดอาการชักได้
- ปริมาณที่เหมาะสมคือปริมาณที่ RDA ระบุเอาไว้ แต่ควรทราบว่าปริมาณดังกล่าวเป็นปริมาณขั้นต่ำต่อวันสำหรับผู้ที่ขาดวิตามินนี้อย่างรุนแรง ในการรักษาที่ต้องใช้วิตามินบี9 นี้ ปริมาณการใช้ก็จะต้องเพิ่มขึ้นตามวิจารณญาณ แต่อย่าลืมว่าปริมาณที่การใช้ก็มีผลต่อระดับความเป็นพิษด้วย (400 ไมโครกรัมต่อวัน เป็นค่าที่แนะนำให้ใช้ได้)
ขนาดรับประทาน
วิตามินบี 9 – กรดโฟลิค ความเป็นพิษและอาการในกรณีที่ใช้ปริมาณสูง
- ผู้ที่อยู่ในขั้นตอนการรักษาลมชัก หรือลมบ้าหมูที่ ใช้ยานี้ควรระวังการใช้กรดโฟลิคในปริมาณสูง เนื่องจากอาจเปลี่ยนแปลงผลการทำงานของยาที่รักษาโรคได้ การใช้กรดโฟลิคมากเกินไปอาจทำให้เกิดการขาดวิตามินบี12
- การใช้โฟลิคในปริมาณสูงอาจมีผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร, อ่อนเพลีย และนอนไม่หลับ
เมื่อจำเป็นต้องใช้ปริมาณมากขึ้น
- ในหญิงตั้งครรภ์ควรรับประทานอาหารเสริมกรดโฟลิคในปริมาณไม่มาก เพื่อป้องกันอาการที่เด็กแรกเกิดอาจมีการเจริญเติบโตอย่างผิดปกติที่เกิดขึ้นกับกระดูกสันหลัง หรืออาการระบบประสาทไม่ปกติตั้งแต่แรกเกิด และยังช่วยลดอัตราเสี่ยงของโรคโลหิตเป็นพิษในครรภ์, การคลอดก่อนกำหนด หรือการตกเลือด และยังเข้าใจว่าช่วยเพิ่มการผลิตน้ำนมหลังการคลอดบุตรด้วย ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินอาจเพิ่มปริมาณการใช้กรดโฟลิคให้มากขึ้น รวมถึงผู้ที่มีภาวะเครียด และผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์
- หญิงที่ใช้ยาคุมกำเนิดหรือใช้ฮอร์โมนในการรักษาโรค อาจได้รับประโยชน์จากกรดโฟลิค เช่นเดียวกับเด็ก ๆ ที่ได้รับประโยชน์จากนมแพะแทนนมวัว
จะได้ผลดีเมื่อใช้ร่วมกับ
- กรดโฟลิคจะให้ผลดีมากขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับกลุ่มวิตามินบี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิตามินบี12 และวิตามินบี6 ... ใช้วิตามินซีร่วมด้วยก็ให้ผลดี
อันตรายของวิตามินบี9 – กรดโฟลิค
- แสง, ความร้อน และการเก็บวิตามินเป็นเวลานานเกินไปสามารถทำลายวิตามินนี้ได้
ตัวอย่างเมนูคลายเครียด
- อาหารเช้า น้ำเต้าหู้ใส่เครื่องโรยงาหรือจมูกข้าวสาลี + ผลไม้สด หรือ แซนวิชทูน่า(ทำจากขนมปังโฮลวีท) + นม/โยเกิร์ตชนิดพร่องไขมัน + ผลไม้สด/น้ำผลไม้
- อาหารกลางวัน ข้าวราดผัดกระเพรา + ผลไม้ปั่น/สมูทตี้ หรือ เย็นตาโฟ/บะหมี่หมูแดง + เต้าฮวยฟรุ้ตสลัด
- อาหารว่างบ่าย ถั่วลิสงต้ม/อบ หรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ หรือกล้วยปิ้ง หรือผลไม้สด หรือนม/โยเกิร์ตชนิดพร่องไขมัน
- อาหารเย็น ข้าวต้มปลา + ผลไม้สด หรือ ข้าว + แกงส้มผักรวมใส่กุ้ง + ไข่เจียว +ผลไม้สด
คลิกสั่งซื้อที่นี่ >>http://www.vitaminth.com/product/11/blackmores-folic-acid-ขนาด-90-เม็ด
ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุค http://www.facebook.com/vitaminthai
ติดตามกูรูด้านสุขภาพทางไลน์ http://line.me/ti/p/%40vitaminthailand
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม www.vitaminth.com
ไม่มีความคิดเห็น:
โพสต์ความคิดเห็น