กินอย่างไร ไม่ให้ขาดวิตามิน

การรับประทานอาหารซ้ำซากอาจทำให้ขาดวิตามินได้ โดยเฉพาะวิตามินเอ และ บี ที่สำคัญยิ่งต่อสุขภาพ

อาหารที่มีวิตามินเอ เช่น ตับ ไขแดง ผลิตภัณฑ์จากนม ปลาเนื้อมัน เนื้อ ผักสีเขียว และสีเหลือง
อาการขาดวิตามินเอ จะมีผิวแห้งและหยาบกร้าน เล็บแตกเปราะง่ายและมีจุดขาวๆ หากขาดมากจะมองไม่เห็นในตอนกลางคืน หากขาดนานๆ จะทำให้ตาบอดได้

วิตามินบี 1มีมากใน ถั่วชนิดต่างๆ ข้าวกล้อง รำข้าว เนื้อหมู ไข่
อาการขาดวิตามินบี 1 ทำให้การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตไม่ดี เบื่ออาหาร หงุดหงิดง่าย อ่อนเพลีย ขาดสมาธิ หรือคันแขนคันขา หากขาดวิตามินบี 1 มากจะทำให้หัวใจอ่อนแรงและกล้ามเนื้อเป็นแผล

วิตามินบี 2 มีมากใน ตับ เนื้อไก่ นม ไข่ ธัญพืช
อาการขาดวิตามินบี 2 มุมปากเป็นแผล ลิ้นและเยื่อปากอักเสบ โรคโลหิตจาง ผู้ที่กินยาเม็ดคุมกำเนิดและยาต้านโรคซึมเศร้าอาจขาดวิตามินชนิดนี้

วิตามินบี 3 มีมากใน ปลาเนื้อมัน เนื้อไก่ ตับ ถั่ว
อาการขาดวิตามินบี 3 มังสวิรัติ หรือ ผู้ทานโปรตีนน้อย อาจทำให้ขาดวิตามินบี 3 ได้ อาการก็คือ ซึมเศร้า ผิวแห้งแตก อ่อนเพลีย และนอนไม่หลับ

วิตามินบี 5 มีมากใน ผักเกือบทุกชนิด ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ ปลา ไข่แดง ผักสีเขียว ธัญพืช
อาการขาดวิตามินบี 5 กลุ่มเสี่ยงคือ ผู้ที่ขาดอาหารโรคเบาหวาน นักกีฬา และผู้ที่ใช้แรงงาน อาการก็คืออ่อนเพลีย กล้ามเนื้อกระตุกเกร็ง คลื่นไส้ ปวดท้อง ปวดศีรษะ

วิตามินบี 6 มีมากใน เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ วัว หมู ไข่ ปลา นม
อาการขาดวิตามินบี 6 นอนไม่หลับ ติดเชื้อง่าย อ่อนเพลีย มีปัญหาผิวพรรณ ปากแห้งแตก ลิ้นและปากอักเสบ แต่คนที่มีสุขภาพดีโดยทั่วไปมักไม่ขาดวิตามินชนิดนี้
คลิกสั่งซื้อที่นี่ >>www.vitaminth.com
ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุค http://www.facebook.com/vitaminthai
ติดตามกูรูด้านสุขภาพทางไลน์ http://line.me/ti/p/%40vitaminthailand
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม www.vitaminth.com
ไม่มีความคิดเห็น:
โพสต์ความคิดเห็น