ปรับสมดุลร่างกายจากภาวะความเครียด

คุณเชื่อไหมว่าผม “มีเวลานอนแค่วันละ 3-4 ชั่วโมงต่อวัน” ผมคิดว่า หลายๆคนที่อ่านอยู่อาจจะไม่เชื่อ แต่สำหรับผมซึ่งมีหน้าที่ในการบริหารทีมงานและดูแลยอดขายในขณะเดียวกัน เรื่องของการบริหารเวลาคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการที่จะทำให้งานที่ผมทำประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ผมจึงเลือกที่จะใช้เวลาให้มากที่สุดกับการทำงานในวันธรรมดา โดยเฉพาะสัปดาห์ที่มีงานด่วนมากๆ ผมต้องนั่งทำงานจนถึงรุ่งเช้าซึ่งทำให้ผมมีเวลาที่จะ พักผ่อนน้อย จนเพื่อนร่วมงานมักเรียกผมว่า เป็นพวกคลั่งลัทธิ “Workaholic” (พวกที่ชอบทำงานเป็นชีวิตจิตใจ) ซึ่งตรงนี้ผมขอแก้ตัว เลยว่าเป็นเพราะเนื้องานที่ผมทำอยู่ จะเน้นในเรื่องการคิด วิเคราะห์ ซึ่งช่วงเวลากลางคืนในที่ทำงาน เป็นเวลาที่เงียบสงบที่สุด ทำให้ผมมักจะคิดไอเดียใหม่ๆ ได้เสมอ แต่ผ่านมาสักเดือนกว่า ร่างกายผมเองที่กลับไม่สามารถทนกับสภาพแบบนี้ได้ มีอยู่หลายครั้งที่ผมตื่นขึ้นมาจากการนอน แล้วรู้สึกว่า ร่างกายมีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง และง่วงนอน ตลอดเวลา ยิ่งในช่วงที่ประชุมหรือใช้ความคิดมากๆ ก็จะยิ่งรู้สึก เหนื่อยง่าย ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นกับตัวผมบ่อยมาก จนผมเริ่มคิดว่าตัวเองเป็นโรค อ่อนเพลียเรื้อรัง หรือเปล่า?
.
.

.

1. เราต้องรู้ตัวเราเองก่อนว่าเราขาดอะไรกันแน่ และต้องการเสริมอะไร อาจลองปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตามโรงพยาบาลหรือคลีนิก
2. ยี่ห้อที่เราจะทานนั้นมีมาตรฐานหรือเปล่า อย่างมาตรฐานโลกที่เป็นที่ยอมรับมากที่สุดต้องเป็นของเยอรมันนี ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตอุตสาหกรรมยาและควบคุมคุณภาพ ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก
3. ส่วนผสมที่อยู่ข้างใน ต้องเปรียบเทียบได้ในเชิงปริมาณ โดยยึดตามสิ่งที่เราขาดไป เช่นหากเราเป็นคนที่ขาดวิตามินบี สิ่งที่ต้องให้ความสนใจคือปริมาณของวิตามินบีที่ผสมอยู่ในหนึ่งเม็ดเทียบกันระหว่างยี่ห้ออื่น ไม่ใช้ไปดูส่วนผสมอื่นๆ ที่เจ้าของสินค้าพยายามใส่เสริมขึ้นมา เพื่อเป็นตัวช่วยเสริมผลลัพท์จากการรับประทาน
4. ราคาเป็นสิ่งที่คุณไม่ต้องไปให้ความสนใจกับมันมากนัก !! เพราะสินค้าที่ราคาแพงมักจะแพงเพราะค่าทำการตลาด ไม่ได้แพงเพราะส่วนผสมที่อยู่ข้างใน เพราะฉะนั้นเลือกที่ปริมาณของส่วนผสมจะดีที่สุด
หลังจากที่ได้ข้อมูลมา ผมก็มีความรู้สึกว่าเราอยากลองเปลี่ยนยี่ห้อใหม่ๆ บ้าง ก็เลยไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมจากการสอบถามคุณหมอและเพื่อนสนิท ก็ได้คำแนะนำให้ลองดู 2 ยี่ห้อ ที่กำลังดังในตลาด คือตัว NAT B ของ Maga We Care และ Exec B ของ Blackmores ซึ่งผมลองทำข้อมูลมาเปรียบเทียบ ดังนี้
.
หลังจากที่ได้ข้อมูลมา ผมก็มีความรู้สึกว่าเราอยากลองเปลี่ยนยี่ห้อใหม่ๆ บ้าง ก็เลยไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมจากการสอบถามคุณหมอและเพื่อนสนิท ก็ได้คำแนะนำให้ลองดู 2 ยี่ห้อ ที่กำลังดังในตลาด คือตัว NAT B ของ Maga We Care และ Exec B ของ Blackmores ซึ่งผมลองทำข้อมูลมาเปรียบเทียบ ดังนี้
.

จากข้อมูล จะเห็นได้ชัดเจนว่าตัวของ NAT B นั้นมีส่วนผสมของวิตามินบีสูงกว่ามากและมีราคาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งตอนนี้ผมก็เลือก NAT B มาทานแทนตัววิตามินรวมที่หมดไปแล้ว ผลลัพท์จากการทานผ่านมา 1 เดือนก็รู้สึกว่า อยากทานอาหารมากขึ้น คนรอบข้างก็บอกว่า ดูแจ่มใส อารมณ์ดีมากขึ้น และอยู่กับงานได้นานขึ้น
สำหรับผม ที่ต้องใช้สมองมากเป็นพิเศษ ต้องเผชิญความเครียดจากงานที่ทำ กับลูกน้อง เพื่อนร่วมงานและโดยเฉพาะหัวหน้างาน ซึ่งมักทำให้เราเครียดอยู่บ่อย ๆ การเอาใจใส่ ในเรื่องสุขภาพทั้งการศึกษาวิธีธรรมชาติบำบัด เช่น การนั่งสมาธิ เพื่อสงบจิต การรับประทานข้าวกล้อง และน้ำตาลทรายที่ไม่ขัดสี ควบคู่ไปกับการทานอาหารเสริมจำพวกวิตามินบีที่มีมารตรฐานและปริมาณวิตามินสูง สิ่งเหล่านี้เป็นอาหารบำรุงสมอง ที่ช่วยให้ผมรู้สึกสดชื่น และมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อเผชิญและจัดการกับความเครียดจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว ได้ดีขึ้นครับ
คลิกสั่งซื้อที่นี่ >>http://www.vitaminth.com/product/98/mega-we-care-nat-b-วิตามินบีรวม-40-แคปซูลhttp://www.vitaminth.com/product/99/mega-we-care-nat-b-วิตามินบีรวม-100-แคปซูล
ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุค http://www.facebook.com/vitaminthai
ติดตามกูรูด้านสุขภาพทางไลน์ http://line.me/ti/p/%40vitaminthailand
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม www.vitaminth.com
ติดตามกูรูด้านสุขภาพทางไลน์ http://line.me/ti/p/%40vitaminthailand
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม www.vitaminth.com
ไม่มีความคิดเห็น:
โพสต์ความคิดเห็น